เชิญเที่ยวงานแสดงแสงสีเสียง “เล่าขานตำนาน ศรีทวารวดี ศวรปุณยะ แห่งนครพริบพรี” ขึ้นที่บริเวณด้านหน้าสถูปโบราณสถานโคกเศรษฐี ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พบการแสดงชุดระบำโบราณคดีศรีทวารวดี ศวรปุณยะ งานปูนปั้นที่ค้นพบในโบราณสถานโคกเศรษฐี แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกหลายอย่าง อาทิ สาธิตศิลปะปูนปั้นเมืองเพชร การท่องเที่ยวชุมชน ลานวัฒนธรรมของชาวนายาง
การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวัฒนธรรมในสมัยทวารวดี โดยการนำเสนอในรูปแบบร่วมสมัย ซึ่งมีดนตรีสร้างขึ้นมาใหม่ แนว cenimatic คล้ายภาพยนตร์ ทำเพอร์คัชชั่น ensemble ผสมผสานเครื่องดนตรีไทย เล่าเรื่องแบบละครผ่านนักแสดงซึ่งมีความร่วมมือของจิตอาสาระดับมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งการออกแบบระบำ ท่ารำ ท่าเต้น
ทั้งนี้สถูปโคกเศรษฐีเป็นศาสนสถานสมัยทวารวดี ตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของเทือกเขาจอมปราสาทอันเป็นส่วนหนึ่งของเขาเจ้าลายใหญ่หรือเทือกเขานางพันธุรัตน์ ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวชะอำ โดย เทือกเขาเจ้าลายใหญ่ มีความเกี่ยวข้องกับตำนานเมืองเพชรบุรี เรื่อง “มหาเภตรา” และเรื่อง “ท้าวม่องไล่”
รวมทั้ง “เจ้ากงจิ่น” และ “เจ้าลาย” โดยตำนานกล่าวว่าบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านเมืองโบราณ มีผู้คนทำมาหากินอยู่ด้วยการจับสัตว์ทะเลขายและการเป็นโจรสลัดปล้นเรือพาณิชย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าหรือหัวหน้าปกครอง
ขณะที่ตำนานการสร้างโคกเศรษฐีนั้น มีนิทานปรัมปราท้องถิ่นกล่าวว่าได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งใช้เกวียนเป็นพาหนะขนทองคำและของมีค่าเดินทางผ่านมายังโคกเศรษฐีแล้วเกวียนหัก จึงขอให้ชาวบ้านช่วยซ่อมเกวียนเพื่อที่จะได้เดินทางต่อ ชาวบ้านทราบว่าเศรษฐีขนทรัพย์สมบัติมาจึงเกิดความละโมบและออกอุบายไปตัดไม้สบู่อันเป็นไม้เนื้ออ่อนมาซ่อมเกวียน
แต่เศรษฐีเฉลียวใจจึงสร้างเจดีย์ขึ้นองค์หนึ่งและนำทรัพย์สมบัติไปซ่อนไว้ในองค์เจดีย์พร้อมกับทำการสาปแช่งคนที่จะมาลักขโมยสมบัติไว้ ซึ่งนิยายปรัมปราดังกล่าวส่งผลให้มีการลักลอบขุดทำลายสถูปโคกเศรษฐีเพื่อค้นหาสมบัติ
โดยครั้งที่ครึกโครมมากที่สุดคือ เมื่อ พ.ศ. 2528 ปรากฏว่าโบราณวัตถุที่ได้จากการลักลอบขุดไม่ปรากฏวัตถุมีค่าแต่อย่างใด นอกจากชิ้นส่วนของประติมากรรมปูนปั้น อาทิ พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ รูปบุคคล และลวดลายประดับสถาปัตยกรรม